Implant-Retained Overdenture
ทางเลือกใหม่เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับผู้สูญเสียฟันทั้งปาก

          สำหรับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปาก การใส่ฟันปลอมทั้งปากเป็นวิธีการรักษาที่ใช้กันมานาน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยจำนวนมากมักประสบปัญหาความไม่มั่นคงของฟันปลอม ฟันปลอมเคลื่อนที่ขณะเคี้ยวหรือพูด สร้างความรำคาญ ลดทอนความมั่นใจ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประจำวัน
Implant-Retained Overdenture หรือฟันปลอมถอดได้ที่ยึดด้วยรากฟันเทียม ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเป็นการผสมผสานข้อดีของรากฟันเทียมเข้ากับฟันปลอมถอดได้ ทำให้ฟันปลอมมีความมั่นคงและมีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ดีกว่าฟันปลอมทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด

Implant-Retained Overdenture คืออะไร?

          คือฟันปลอมถอดได้ที่ได้รับการยึดติดกับรากฟันเทียมที่ฝังอยู่ในกระดูกขากรรไกร โดยจะมีการเชื่อมต่อกันระหว่างฟันปลอมและรากฟันเทียมด้วยอุปกรณ์พิเศษ (Attachment) ที่มีหลากหลายรูปแบบ เช่น Ball attachment, Locator attachment หรือ Bar attachment ซึ่งทำหน้าที่ยึดฟันปลอมให้อยู่กับที่อย่างมั่นคง แต่ยังคงสามารถถอดออกเพื่อทำความสะอาดได้

ตัวอย่างฟันปลอมถอดได้ที่ได้รับการยึดติดกับรากฟันเทียมด้วย Locator attachment

ข้อดีของ Implant-Retained Overdenture
  1. เพิ่มความมั่นคงและลดการเคลื่อนที่ของฟันปลอม: ฟันปลอมจะถูกยึดไว้อย่างมั่นคง ทำให้ผู้ป่วยสามารถเคี้ยวอาหาร พูด และยิ้มได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าฟันปลอมจะหลุด
  2. เพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยว: เมื่อฟันปลอมมั่นคงขึ้น ผู้ป่วยจะสามารถเคี้ยวอาหารได้ดีขึ้น ทำให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอและหลากหลาย
  3. ลดการระคายเคืองและการเจ็บเหงือก: การเคลื่อนที่ของฟันปลอมที่ลดลง ช่วยลดการเสียดสีกับเหงือกและเนื้อเยื่ออ่อนในช่องปาก ลดปัญหาแผลในปากและการเจ็บเหงือก
  4. รักษาสภาพกระดูกขากรรไกร: รากฟันเทียมจะช่วยกระตุ้นกระดูกบริเวณที่ฝัง ทำให้ลดการละลายตัวของกระดูกขากรรไกรที่มักเกิดขึ้นเมื่อไม่มีฟัน
  5. เพิ่มความมั่นใจและคุณภาพชีวิต: ผู้ป่วยสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติสุขมากขึ้น มีความมั่นใจในการเข้าสังคมและการทำกิจกรรมต่างๆ
ใครบ้างที่เหมาะกับ Implant-Retained Overdenture?
  • ผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปากและต้องการฟันปลอมที่มีความมั่นคงมากกว่าฟันปลอมทั่วไป
  • ผู้ที่ใส่ฟันปลอมถอดได้แบบเดิมแล้วมีปัญหาฟันปลอมหลวม ไม่มั่นคง
  • ผู้ที่มีปริมาณกระดูกขากรรไกรที่ยังเพียงพอต่อการฝังรากฟันเทียมจำนวน 2-4 ซี่ต่อขากรรไกร
  • ผู้ที่มีสุขภาพร่างกายโดยรวมดี และสามารถดูแลสุขอนามัยในช่องปากได้ดี

ข้อควรพิจารณา

          แม้ว่า Implant-Retained Overdenture จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อควรพิจารณาบางประการ เช่น มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าฟันปลอมทั่วไป และต้องใช้เวลาในการรักษาหลายขั้นตอน เนื่องจากต้องรอให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูก

รายงานผู้ป่วย: กรณีศึกษา Implant-Retained Overdenture

ข้อมูลผู้ป่วย:
          ผู้ป่วยชายชาวเยอรมัน อายุ 65 ปี อาชีพช่างเกษียณอายุ
ประวัติการเจ็บป่วยปัจจุบัน:
          ผู้ป่วยมาด้วยอาการสำคัญคือฟันปลอมบนและล่างหลวม ใช้งานไม่ได้ ไม่กระชับ เคี้ยวแล้วเจ็บโดยเฉพาะฟันปลอมล่าง ทำให้เคี้ยวอาหารลำบาก พูดไม่ชัด และรู้สึกเจ็บเหงือก
ประวัติทางการแพทย์:
          ผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูงควบคุมได้ดีด้วยยา ไม่มีประวัติแพ้ยา หรือมีโรคที่มีผลต่อการหายของกระดูก
การตรวจทางคลินิกและภาพรังสี:
          การตรวจในช่องปากช่องปาก:
          ขากรรไกรบน : พบสะพานฟันตำแหน่ง 12-23 มีอาการโยกระดับ 1 ฟันปลอมบนหลวมเล็กน้อย
          ขากรรไกรล่าง : พบซี่ 34 metel telescopic ของฟันปลอมทั้งปากล่าง ฟันซี่ 33 เป็นรากฟันตกค้าง ฟันปลอมล่างหลวมมาก ไม่สามารถยึดเกาะได้ดี
          ภาพรังสี periapical พบซี่ 12, 23 ผุใต้ครอบฟันจนเหลือแต่รากฟัน ฟันซี่ 11, 22 มีฟันผุลึกใต้ครอบฟัน ภาพรังสี CBCT (Cone Beam Computed Tomography): พบว่ามีปริมาณกระดูกขากรรไกรบนและล่างเพียงพอสำหรับการฝังรากฟันเทียมอย่างน้อย 2-4 ซี่ในแต่ละขากรรไกร โดยไม่มีพยาธิสภาพที่สำคัญ
การวินิจฉัย:
          12, 23, 33 รากฟันค้าง
          11, 22 ฟันผุซ้ำ
          ภาวะสันเหงือกบนและล่างปกติ
          ฟันปลอมถอดได้บนและล่างขาดความมั่นคง
แผนการรักษา:
          หลังจากอธิบายทางเลือกการรักษาต่างๆ เช่น การทำฟันปลอมใหม่ การทำสะพานฟันแบบติดแน่นบนรากฟันเทียม หรือ Implant-Retained Overdenture ให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงข้อดี ข้อเสีย และค่าใช้จ่าย ผู้ป่วยตัดสินใจเลือกการรักษาด้วย Implant-Retained Overdenture ทั้งขากรรไกรบนและล่าง เพื่อให้ได้ฟันปลอมที่มีความมั่นคงสูงสุดแต่ยังคงถอดออกมาทำความสะอาดได้
          ขั้นตอนที่ 1: ผ่าตัดฝังรากฟันเทียม จำนวน 4 ซี่ที่ขากรรไกรบน ตำแหน่ง 16, 13, 23, 25 และ 2 ซี่ที่ขากรรไกรล่างตำแหน่ง 33 และ 43 โดยใช้แนวนทาง 3 มิติ
          ขั้นตอนที่ 2: รอการติดแน่นของรากฟันเทียมกับกระดูก (Osseointegration) ประมาณ 3 เดือน โดยในช่วงนี้ผู้ป่วยจะยังคงใส่ฟันปลอมชั่วคราวชุดใหม่โดยมีการกรอแต่งไม่ให้ฟันปลอมกดทับรากเทียม
          ขั้นตอนที่ 3: พิมพ์ปากเพื่อทำฟันปลอมถอดได้ชุดใหม่ที่สามารถเชื่อมต่อกับรากฟันเทียม โดยเลือกตัวต่อชนิด Locator attachment
          ขั้นตอนที่ 4: ใส่ฟันปลอมบนและล่าง จากนั้นทำการ pick up hosing เพื่อยึดฟันปลอมกับรากฟันเทียม และปรับการสบฟัน ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษาและทำความสะอาด
การติดตามการรักษา:
          มีการนัดผู้ป่วยมาตรวจติดตามผลการรักษาทุกสัปดาห์จนกระทั่งผู้ป่วยใช้งานได้ปกติ จากนั้นจึงนัดผู้ป่วยกลับมาคงสภาพทุก 6 เดือน

บทสรุป:

Implant-Retained Overdenture
เป็นทางเลือกการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันทั้งปาก ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นคงของฟันปลอม ปรับปรุงประสิทธิภาพการบดเคี้ยว ลดการละลายตัวของกระดูก และที่สำคัญที่สุดคือช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน หากท่านกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับฟันปลอม ผมขอแนะนำให้ปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านรากฟันเทียมเพื่อประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับท่าน

ภาพแสดงลักษณะสันเหงือกในตำแหน่งหน้าตรงที่มี Locator attachment
ภาพแสดงลักษณะสันเหงือกในตำแหน่งด้านบดเคี้ยวที่มี Locator attachment
ภาพแสดงฟันปลอมถอดได้โครงโลหะบนและล่าง
ภาพแสดงฟันปลอมถอดได้โครงโลหะบนและล่างในตำแหน่งหน้าตรง
ภาพแสดงฟันปลอมถอดได้โครงโลหะบนและล่างในตำแหน่งด้านบดเคี้ยว